วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2551

ประวัติสิงโตต่างๆ

ชาวจีนได้แบ่งสิงโตออกเป็น 4 ประเภทคือ สิงโตกวางตุ้ง สิงโตปักกิ่ง สิงโตไหหลำ(เสือไหหลำ) สิงโตฮากกา(สิงโตจีนแคระ) 1.สิงโตกวางตุ้งคือสิงโตที่นิยมเชิดกันมากที่สุดเพราะมีสีสันและลวดลายสวยงาม เห็นได้ทั่วไปตามงานวัดและงานมงคลของไทยแลจีน มักประดับกระจกที่หน้าผาก สิงโตกวางตุ้งประกอบด้วยสัตว์ 3 ชนิด คือ แรด(มีนอที่หน้าผากเหมือนแรด) ม้า(มีลำตัวเหมือนม้า) สุนัข(มีอากัปกิริยาเหมือนสุนัข) มีคนคอยติดตามคือแป๊ะยิ้มในมือถือพัดที่ทำมาจากใบตาล คู่กับยายซิ้มที่ในมือถือตะกร้าใส่ดอกเบ็ญจมาศ และจี้กงเป็นคนเมามีหน้าตาสกปรกมอมแมมในมือถือขวดน้ำเต่ใส่หล้า 2.สิงโตปักกิ่ง เป็นสิงโตที่มักเห็นกันตามคณะกายกรรมของจีน มีลักษณะเหมือนสุนัขพันธุ์ปักกิ่ง มีอากัปกิริยาที่หน้ารัก มักเชิดกันเป็นคู่คือ พ่อ-แม่ และ ลูก2-4ตัว หัวสิงโตปักกิ่งนั้นจะไม่ค่อยมีลวดลายจะใช้แค่สีทอง และลำตัวจะมีแค่สองสีเท่านั้นเช่น แดง-เหลือง ส้ม-เหลือง เหลือง-เขียว เป็นต้นและจะมีคนคอนล่อลูกแก้วให้สิงโตวิ่งตาม สิงโตปักกิ่งได้เข้ามาในประเทศไทยสมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายก ได้เดินทางไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับประเทศจีน คณะกรรมการแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่ปากน้ำโพในปีพ.ศ. 2519 ได้ชมการแสดงสิงโตปักกิ่งของคณะกายกรรมกวางเจาที่มาแสดงในประเทศไทยจึงเกิดความคิดที่จะนำมาเข้าร่วมขบวนแห่ด้วย จึงได้จัดหาอาจารย์มาฝึกสอนโดยเชิญอาจารย์ลิ้มอู้จั้ว จากฮ่องกง ซึ่งมีความชำนาญในการแสดงศิลปะต่างๆมาฝึกสอนเป็นเวลา 3 ปี3.สิงโตไหหลำหรือเสือไหหลำเป็นของชาวจีนไหหลำ เหตุที่เรียกเสือไหหลำก็เพราะมีเรื่องเล่าว่ามีแม่ลูกคู่หนึ่งเดินทางไปไหว้ศาลเจ้าปึงเถากงหนึ่งในไหหลำ และได้มีเสือนอนหลับอยู่ข้างศาลเจ้า โดยปกติเสือตัวนี้จะไม่ทำร้ายใคร จนเด็กคนนี้ไปแหย่เสือที่นอนหลับอยู่เสือก็ตื่นขึ้นด้วยความโกรธแล้วกินเด็กลงไป ส่วนแม่ก็ได้แต่ยืนดูโดยที่ช่วยอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ยืนร้องไห้อยู่ตรงหน้าศาลเจ้า ฝ่ายเทพเจ้าปึงเถากงเห็นเหตุการณ์ก็นึกสงสารจึงไปขอให้พระภูมิเจ้าที่สององค์ช่วยเหลือชาวจีนไหหลำจึงได้นำตำนานเรื่องนี้มาเป็นการแสดง4.สิงโตฮากกาหรือสิงโตจีนแคะมีลักษณะของหัวคล้ายกับบุ้งกี๋ มีสีสันสวยงามรองลงมาจากสิงโตกวางตุ้ง มักจะใช้สี แดง หลือง เขียวในการแต่งลวดลาย มีประวัติที่ยาวนานคือ ครั้นสมัยโบราณกาลที่ประเทศจีนเกิดภัยพิบัติ ฝนแล้งติดต่อกันมานานหลายปีชาวบ้านชาวนาเดือดร้อน ทำให้พระเจ้าแผ่นดินจีนมีพระราชบัญชาให้โหรหลวงช่วยตรวจสอบชะตาเมืองว่าจะมีทางแก้ไขอะไร ฝ่ายโหรหลวงได้ทูลหนทางแก้ไขว่าต้องหาคนไปจับสิงโตที่ชมพูทวีปมาแห่รอบเมืองเพื่อขับไล่สิงชั่วร้ายออกไป จึงให้ทพารไปประกาศหาคนฝีมือดีไปจับสิงโต แต่ก็ไม่มีใครที่จะมาอาสาไป ความทุกข์นี้ทราบไปถึงเง็กเซียนฮ่องเต้บนสวรรค์ จึงส่งซาเซียนลงมาจับสิงโต โดยมีหญ้าเล่งจือเช่าเป็นยาอายุวัฒนะกับพัดของเจ้าแม่กวนอม พอมาถึงก็ได้พบสิงโตตัวหนึ่งมีขนสีทอง ท่วงทีอาจอ้วนพีมีลักษณะดีมากจึงสยบสิงโตด้วยพัดของเจ้าแม่กวนอิม แล้วหลอกล่อให้สิงโตกินหญ้าอายุวัฒนะที่เสกมนต์กำกับไว้ แล้วนำมาแห่ทั่วเมือง ทำให้ภัยพิบัติต่างๆหมดสิ้นไป

ไม่มีความคิดเห็น: